สารนิพนธ์

บทคัดย่อ

         การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการให้บริการของเทศบาลตำบลเวียงพร้าว อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ๒) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการให้บริการของเทศบาลตำบลเวียงพร้าว อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ และ๓) เพื่อประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมในการเสริมสร้างความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการให้บริการของเทศบาลตำบลเวียงพร้าว อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ รูปแบบการวิจัย เป็นการวิจัยผสานวิธี ได้แก่ การวิจัยในเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลเวียงพร้าว ๒ ตำบล ๑๒ หมู่บ้าน จำนวนประชากรทั้งสิ้น ๕,๔๓๖ คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวนทั้งสิ้น ๑๒ รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์เชิงลึก

ผลการวิจัยพบว่า

๑) ระดับความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการให้บริการของเทศบาลตำบลเวียงพร้าวโดยองค์รวมทั้ง ๓ ด้านมีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก (x̄) = ๓.๘๖ และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทั้ง ๓ ด้านอยู่ในระดับมาก โดยมีด้านสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย (x̄) = ๓.๙๘ ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย (x̄) = ๓.๙๕ และด้านขั้นตอนในการให้บริการอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย (x̄) = ๓.๘๖ 

๒) ผลการเปรียบเทียบระดับความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการให้บริการของเทศบาลตำบลเวียงพร้าว พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุ การศึกษา และอาชีพที่แตกต่างกัน มีความพึงพอใจต่อการให้บริการของเทศบาลตำบลเวียงพร้าว ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ทั้ง ๔ ปัจจัย

๓) การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมในการเสริมสร้างความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการให้บริการของเทศบาลตำบลเวียงพร้าว ได้แก่ หลักสังคหวัตถุ ๔ ประกอบด้วย ๑) ทาน เป็นการให้บริการแก่ประชาชนด้วยการทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง อุทิศเวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ ๒) ปิยวาจา คำพูดที่เป็นปิยวาจานั้นต้องสุภาพ อ่อนหวาน เรียบร้อย ไพเราะ แสดงถึงความให้เกียรติแก่ประชาชนผู้มาใช้บริการ ๓) อัตถจริยา เป็นการเอาตัวเข้าไปประสานในการให้บริการ เป็นการอาสา เพื่อเข้าไปเป็นธุระในการดำเนินการต่าง ๆ และ ๔) สมานัตตตา เป็นหลักแห่งความเสมอภาค ซึ่งการให้บริการจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความเสมอภาคในการให้บริการ